พิธีขออนุญาตและขอพรจากพระพุทธชินราช สมเด็จนางพญาซุ้มเรือนแก้ว

จัดเตรียมพื้นที่ในการทำพิธีหลอมมวลสาร และเทหล่อพระกริ่งพ่อจ่าการบุญ วันเสาร์ที่ 9 กันยายน 2566 ก่อน 09.00 น.

ขอพรหลวงพ่อพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร

ขอพรสมเด็จนางพญาซุ้มเรือนแก้ว วัดนางพญา

พระกริ่งเนื้อดี ดีนอก ดีใน แผ่นยันต์จารจำนวนมาก

การให้ความสำคัญในการทำมวลสารของการสร้างวัตถุมงคลเป็นความประณีตของผู้จัดสร้าง เพราะนอกจากอธิษฐานจิตปลุกเสกให้มีความเข้มขลังแล้ว สิ่งที่สะสมรวมอยู่ในเนื้อหาของวัตถุมงคลก็เป็นมนต์เสน่ห์เช่นกัน

ในการสร้างแผ่นยันต์ของเกจิคณาจารย์ ท่านต้องเรียกแม่ธาตุในประจุขึ้นมาในแผ่นเพื่อให้ดิน น้ำ ลม ไฟ ได้หนุนให้แผ่นโลหะ แผ่นหนัง หรือกระดาษที่ใช้เขียนลงไปเกิดอิทธิฤทธิ์ การจรดจารแต่ละตัวต้องใช้สมาธิจิตสูงเพราะเขียนผิดไม่ได้ เขียนทับไม่ได้ เขียนแบบไม่ท่องเรียกอักขระไม่ได้ ดังนั้นลูกศิษย์ลูกหาที่ได้แผ่นยันต์ของเกจิอาจารย์ก็มักจะหวงแหนไม่ให้ใครง่ายๆ

เมื่อเกจิคณาจารย์ท่านลงอักขระไป 1 ตัว เช่น ตัวนะ ท่านจะต้องท่องว่า “นะกาโรโหติสัมภะโว (เขียนตัวนะ) จงมาบังเกิดเป็นนะดังนี้ อักขระยันตังอุปปัชชะติ อักขระยันตังสันตังวิกรึงคะเรอิทธิฤทธิ” และจะต้องเขียนให้ทัน 1 ลมหายใจ หากเขียนไม่ทันให้เอาทิ้งไปเสียเนื่องจากไม่มีฤทธิ์อันใด ซึ่งกว่าจะเขียนยันต์ได้ 1 แผ่นจึงต้องใช้สมาธิ ใช้เวลา และเมือเขียนเสร็จจะต้องสวดคาถาเรียกชื่อเรียกนามและบอกให้เกิดฤทธิ์ในด้านใด เช่น เป็นยันต์ที่เพิ่มโชคลาภ เป็นยันต์ที่ปกป้องคุ้มครอง เป็นต้น

สำหรับพระกริ่งพ่อจ่าการบุญ คณะทำงานได้รวบรวมแผ่นอักขระจารแผ่นยันต์ด้วยมือ วัตถุมงคลรุ่นปี 2542 พิธีจักรพรรดิ์ และได้รับวัตถุมงคลจากผู้ปกครองจำนวนมากมาหลอมรวมเป็นมวลสาร เมื่อรวมกับเนื้อนวโลหะของโรงงานแล้วถือว่าเป็นพระกริ่งที่มีความขลังจากเนื้อในตั้งแต่ยังไม่ได้ปลุกเสก ซึ่งภาษาทางวงการพระเครื่องจะเรียกว่าเนื้อดี ซึ่งรายนามเกจิและวัตถุมงคลที่มีผู้มาร่วมพลีสามารถดูได้จากหนังสือที่มอบให้พร้อมพระกริ่งพ่อจ่าการบุญ

เมื่อหลอมรวมในฤกษ์ที่ถูกระบุไว้เพื่อเป็นมงคลต่อผู้ครอบครองแล้ว ยังได้ผ่านการอธิษฐานจิตจากเกจิคณาจารย์โดยครั้งนี้ได้รับความเมตตาจากระดับท่านเจ้าคุณถึง 3 รูป รวมแล้วเกจิที่ท่านเจ้าคุณไพรินทร์ได้นิมนต์รวมแล้วทั้งหมด 9 รูป อีกทั้งยังมีพระภาวนาจารย์ร่วมนั่งปรกปลุกเสกอีก ซึ่งเรื่องราวปาฏิหาริย์ตั้งแต่ก่อนวันเริ่มพิธี ตอนหล่อพระกริ่ง และตอนพุทธาภิเษกก็ได้ปรากฏต่อผู้เข้าร่วมพิธีหลายคน นับว่าเป็นวัตถุมงคลที่ระลึกที่ “ดีนอก” และ “ดีใน” ซึ่งวัตถุประสงค์ของการจัดสร้างก็เพื่อเป็นที่ระลึกสำหรับการสมทบทุนการจัดหาเครื่องวงโยธวาทิตที่สูญเสียไปในเหตุอัคคีภัยที่ผ่านมา

บันทึกเหตุการณ์โดยสังเขป

8 ก.ย. 66

  • เชิงเทียนมงคลซ้ายขวาในอุโบสถวัดนางพญา ด้านขวามีฟองแก๊สผุดขึ้นมา โดยผู้จัดงานก็ไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน
  • ขณะครูพนารัตน์และทีมงานจัดเตรียมผ้ารองฐานโต๊ะหมู่บูชาหน้าท่านจ่า บริเวณโดยรอบฝนตกหนัก แต่ในบริเวณจ่าการบุญท้องฟ้าเป็นสีแสดอ่อนๆ แต่ไม่มีฝนตก เมื่อกลัดเข็มสุดท้ายเสร็จฝนก็ตกกระหน่ำ

9 ก.ย. 66

  1. เกิดปรากฏการณ์พระอาทิตย์ทรงกลดเป็นเวลานานขณะบวงสรวงและเทหล่อพระกริ่ง
  2. มีฝูงนกบินวนบริเวณมณฑลพิธี 3 รอบแล้วบินออกไป จากนั้นมีฝูงแมลงปอบินทั่วบริเวณ
  3. ขณะพุทธาภิเษก ครูใหม่และครูจุ๋มพบประสบการณ์พลังงานกระทบตู้โลหะจนได้ยินชัด
  4. ขณะพุทธาภิเษก ครูมิกซ์ถ่ายรูปตรงธรรมาสน์หน้าสมเด็จนางพญาไม่ติดหลายครั้ง
  5. หลังพุทธาภิเษก ครูแชมป์ได้ไปสอบถามท่านเจ้าคุณไพรินทร์ว่ามีคณาจารย์ท่านอื่นได้มาร่วมหรือไม่ ท่านยิ้มแล้วพยักหน้า และเมื่อไปถามหลวงพ่อชาญท่านได้ตอบว่าก็มีมา

เป็นความเชื่อส่วนบุคคลโปรดใช้วิจารณญาณ

ผู้ปกครองร่วมมอบแผ่นทองคำแท้

คุณธัญรัศม์ เอกลักษณานันท์ ผู้ปกครองนักเรียนได้ร่วมมอบเหรียญทองคำบริสุทธิ์เพื่อนำไปร่วมหล่อพระกริ่งพ่อจ่าการบุญ

มอบมวลสารให้สร้างพระกริ่งจ่าการบุญ

วันที่ 7 กันยายน 2566 โรงเรียนจ่าการบุญ ขอขอบคุณ ท่านผู้สนันสนุน พิธีพุทธาภิเษก ในวาระครบรอบ 123 ปี โรงเรียนจ่าการบุญทั้ง 2 ท่าน ที่มอบวัตถุมงคลเพื่อนำมาพลีเป็นมวลสารพระกริ่งพ่อจ่าการบุญ คือ คุณวราภรณ์ ชำนาญช่าง เจ้าของร้านทองพรเจริญ ได้มอบแผ่นทองคำแท้ จำนวน 2 แผ่น เพื่อให้เกจิคณาจารย์ได้จารอักขระลงในแผ่นยันต์ และคุณสุรพล ตั๋นแก้ว ที่มอบวัตถุมงคล เช่น แผ่นยันต์จารมือจากเกจิภาคกลาง แผ่นยันต์ตั๋วเมืองล้านนา (ตัวอักขระเมือง) เหรียญคณาจารย์ด้านหลังจารมือพร้อมตะกรุดจังหวัดสระบุรี เงินยวงภาคใต้ เหรียญเลื่อนสมณศักดิ์หลวงปู่แขก เหรียญยันต์วัดสะพานสูง และมวลสารอื่นๆอีกมากมาย เพื่อนำมาร่วมหล่อ โดย นางสาวลัดดา แย้มอ่อน รองผู้อำนวยการโรงเรียนจ่าการบุญ นายปรเมศวร์ ศรีปา รองผู้อำนวยการโรงเรียนจ่าการบุญ และครูพิริยะ ตระกูลสว่าง เป็นตัวแทนผู้รับมอบ ทางโรงเรียนจ่าการบุญขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย

คุณสุรพล ตั๋นแก้ว ที่มอบวัตถุมงคลทำมวลสาร
คุณสุรพล ตั๋นแก้ว ที่มอบวัตถุมงคลจัดทำมวลสาร
คุณสุรพล ตั๋นแก้ว ผู้ปกครองศิษย์เก่าเดินทางมามอบมวลสารให้ตั้งแต่เช้า
  • 1. แผ่นยันต์จารมือตั๋วเมือง (ตัวล้านนา)
  • 2. แผ่นยันต์เกจิสายภาคกลาง เก่าเก็บ
  • 3. แผ่นยันต์จารมือพระพุทธบาทห้วยต้ม อ.ลี้ จ.ลำพูน
  • 4. หัวนอโม เขาอ้อ
  • 5. เงินยวง กระบี่ คลองท่อม
  • 6. ลูกสะกด สุวรรณราชา
  • 7. เหรียญเลื่อนสมณศักดิ์ พระมงคลสุธี หลวงปู่แขก ปภาโส วัดสุนทรประดิษฐ์ จ.พิษณุโลก
  • 8. เหรียญหลวงพ่อพยุง วัดป่าสัก สระบุรี ด้านหลังมีจารมือ พร้อมด้วยตะกรุด
  • 9. เหรียญยันต์โสฬสมงคล วัดสะพานสูง 1
  • 0. เม็ดกริ่งบรรจุหลวงปู่แขกที่ท่านให้บรรจุใต้พระกริ่งของท่าน

ในช่วงบ่ายคุณวราภรณ์ ชำนาญช่าง เจ้าของร้านทองพรเจริญ ได้มอบแผ่นทองคำแท้ จำนวน 2 แผ่น เพื่อให้เกจิคณาจารย์ได้จารอักขระลงในแผ่นยันต์ นางสาวลัดดา แย้มอ่อน รองผู้อำนวยการโรงเรียนจ่าการบุญ เป็นผู้รับมอบ

คุณวราภรณ์ ชำนาญช่าง เจ้าของร้านทองพรเจริญ ได้มอบแผ่นทองคำแท้ จำนวน 2 แผ่น
คุณวราภรณ์ ชำนาญช่าง เจ้าของร้านทองพรเจริญ ได้มอบแผ่นทองคำแท้ จำนวน 2 แผ่น

พระอาจารย์ขวัญ วัดทับยายเชียง จารยันต์ลงบนแผ่นเงินให้จ่าการบุญ

ประชาสัมพันธ์ พิธีพุทธาภิเษก ในวาระครบรอบ 123 ปี โรงเรียนจ่าการบุญ ในวันเสาร์ที่ 9 กันยายน 2566


โรงเรียนจ่าการบุญ ได้รับความเมตตาจากพระปลัดประพันธ์ (พระอาจารย์ขวัญ ติกฺขปญฺโญ) วัดทับยายเชียง จารแผ่นเงินเพื่อนำมาหลอมชนวนมวลสารพระกริ่งจ่าการบุญ ซึ่งตามกำหนดท่านจะร่วมพิธีพุทธาภิเษกในวันที่ 9 กันยายน 2566 ด้วย แต่เนื่องจากท่านต้องไปพบแพทย์ตามนัดจึงอาจไม่ได้ร่วมพิธี พระอาจารย์ขวัญจึงได้เมตตาจารอักขระและอธิษฐานจิตให้ล่วงหน้าเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2566 ทางโรงเรียนจ่าการบุญขอขอบคุณ คุณธวัชชัย เจริญไพศาลวุฒิ ผู้ปกครองของนักเรียนที่เป็นธุระดำเนินการ นำแผ่นเงินมามอบให้ทางโรงเรียนจ่าการบุญ ในครั้งนี้

วัดทับยายเชียง
หลวงพ่อขวัญ วัดทับยายเชียง เมตตาให้กับชาวจ่าการบุญ 6 ส.ค. 66
วัดทับยายเชียง
คุณธวัชชัย เจริญไพศาลวุฒิ ผู้ปกครองนักเรียนชั้น ป.4 โรงเรียนจ่าการบุญ ผู้ประสานงาน
วัดทับยายเชียง
หลังจากกลับจากเนินมะปรางก็แวะรับมอบจากคุณธวัชชัย เจริญไพศาลวุฒิ ในวันนั้นเลย

จะดีแค่ไหนที่ครั้งหนึ่งเราได้อยู่ร่วมในประวัติศาสตร์

จะดีแค่ไหนที่ครั้งหนึ่งเราได้อยู่ร่วมในประวัติศาสตร์

ในช่วงปี 2542 ทางโรงเรียนจ่าการบุญได้ทำการหล่อรูปลอยองค์พ่อจ่าการบุญ พ่อจ่านกร้อง โดยผู้ที่อยู่ในพิธีได้เล่าให้ครูแชมป์ฟังว่า หลังจากที่เดินทางไปหาข้อมูลเพื่อจัดทำรูปปั้นและปั้นหุ่นเรียบร้อยแล้ว จึงได้เดินทางไปนิมนต์เกจิคณาจารย์มาเพื่อทำพิธี โดยได้เดินทางไปกราบขอความเมตตาจากหลวงพ่อไพรินทร์ หลังจากนั้นก็ได้เดินทางไปนิมนต์หลวงปู่แขกวัดสุนทรประดิษฐ์ หลวงปู่ท่านรับปากและถามว่าจะไปไหนต่อ ทางทีมงานได้กราบเรียนว่าจะไปนิมนต์หลวงปู่อ่อนวัดเนินมะเกลือแต่ก็ไม่มั่นใจว่าจะได้หรือไม่เนื่องจากได้ข่าวว่าท่านไม่รับกิจนิมต์มาแรมปีเนื่องด้วยสุขภาพสังขาร ทางหลวงปู่แขกก็ยิ้มแล้วบอกว่า เดี๋ยวปู่บอกให้

ทางคณะได้เดินทางไปยังวัดเนินมะเกลือ ทันทีที่ลงรถได้มีผู้ดูแลวัดเดินเข้ามาถามว่ามาจากจ่าการบุญใช่หรือไม่ หลวงปู่ท่านทราบแล้ว เดี๋ยวจะไปให้ ทำเอาทีมงานถึงกับงงเพราะยังไม่ได้พูดอะไรเลย

และในพิธีหล่อพ่อจ่าทั้งสอง เกจิคณาจารย์ทั้ง 4 รูปได้เข้ามณฑลพิธี มีหลวงปู่แขก หลวงพ่อไพรินทร์ หลวงตาละมัย หลวงปู่อ่อน นั่งอธิษฐานจิตทั้ง 4 ทิศ ผู้อยู่ในพิธีเล่าให้ฟังว่ามีละอองฝนลงมาโปรยปรายหลวงปู่แขกจึงได้ลุกขึ้นจากที่นั่งและนำผ้ากราบไปโบก อาจด้วยความบังเอิญหรือเหตุอัศจรรย์อย่างไรก็ไม่ทราบ เมฆฝนทะมึน ได้แหวกออกจากบริเวณ เม็ดฝนหยุดตกไป สร้างความอัศจรรย์ใจต่อผู้ร่วมพิธียิ่งนัก

ในครั้งนี้ ทางโรงเรียนจะเริ่มพิธีบวงสรวงและเทพระกริ่งพ่อจ่าการบุญตั้งแต่เวลา 09.00 น. จะถือเป็นโอกาสอีกครั้งที่ทุกท่านจะได้มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์จ่าการบุญในรอบ 123 ปี และสักขีพยานในการสร้างวัตถุมงคลที่ใช้เวลารวบรวมมวลสารและนำไปเข้าพิธีพุทธาภิเษกกว่า 9 เดือน ประณีตตั้งแต่ขั้นตอนหาฤกษ์เพื่อให้ปกป้องคุ้มครองศิษย์ปัจจุบัน ศิษย์เก่า และได้นำรายได้มาดำเนินการจัดซื้อเครื่องดนตรีเพิ่มเติมจากเหตุไฟไหม้ ทางคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ชมรมผู้ปกครอง และชมรมศิษย์เก่าจ่าการบุญ ขอเรียนเชิญทุกท่านร่วมประวัติศาสตร์ครั้งนี้กัน

ร่างแผนกำหนดการพิธีพุทธาภิเษกจ่าการบุญ 123 ปี

วันพฤ 24 ส.ค. 66

ทางคณะทำงานได้ขอรับคำแนะนำจากทางท่านเจ้าคุณไพรินทร์ โดยท่านมอบหมายให้คุณสิงห์ราช นามเชื้อ (คุณปุ๊) เป็นผู้ดำเนินการโดยมีข้อมูลดังนี้

พิธีพุทธาภิเษกจ่าการบุญ (123 ปี) วันเสาร์ที่ 9 ก.ย. 66 (แรม 9 ค่ำ เดือน 9)

  1. เทหล่อช่อพระกริ่งตามฤกษ์ที่กำหนด (เลย 09.54 น. เป็นต้นไป) โดยมีการจัดบวงสรวงบริเวณลานพ่อจ่าและมีการโยงสายสิญจน์จากอุโบสวัดนางพญามามณฑลพิธี

ในพิธีเทหล่อวางแผนไว้ว่าจะนิมนต์คณาจารย์ผู้ทรงคุณจำนวน 3 รูป คือ
พระครูสุจิตธมฺมวิมล เจ้าอาวาสวัดนางพญา ผู้ทรงคุณและเป็นแบบอย่างของผู้มากด้วยพรหมวิหาร
พระครูธรรมธรสุบรรณ จนฺทสุวณฺโณ ดร. ผู้ทรงคุณด้านธรรมวินัยเข้มข้น บิณฑบาตรและปฏิบัติกิจของสงฆ์ไม่มีขาด และเป็นแบบอย่างของผู้มีความพยายาม
พระครูอินทวรวิชัย หลวงพ่อชนะ นรินฺโธ (อาคมแก้ว) ผู้ทรงคุณด้วยพลังเมตตา

ขณะเทมีประธานในพิธีและคณะครูที่สะดวกและเปี่ยมด้วยศรัทธาเข้าร่วม

  1. หลังจากเทหล่อแล้ว หากช่อกริ่งเย็นตัวลงทันจะทุบและนำไปวางในมณฑลพิธีที่วัดนางพญา
  2. ช่วงพิธีพุทธาภิเษก วางแผนไว้ดังนี้
    3.1 นิมนต์พระปัญญาภิมณฑ์มุนี (ท่านเจ้าคุณบุญมี ปญฺญาวุโธ) จุดเทียนชัย
    3.2 เกจิคณาจารย์พุทธาภิเษก
    – พระปัญญาภิมณฑ์มุนี (ท่านเจ้าคุณบุญมี ปญฺญาวุโธ) วัดเจดีย์ยอดทอง
    – พระรัตนโมลี (ท่านเจ้าคุณไพรินทร์ ทนฺตจิตฺโต) วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร
    – พระครูสุจิตธรรมวิมล (หลวงตาชุบ) วัดนางพญา
    – พระครูพิพัฒน์นวกิจ(สมปอง) วัดราษฎร์เจริญ (วัดวังตาบัว)
    – พระครูโกวิทพัฒนาทร (พระอุปัชฌาย์แดง แดง 5 ดร) วัดบางทราย
    – พระครูอินทวรวิชัย หลวงพ่อชนะ นรินฺโธ (อาคมแก้ว) วัดบึงพระ
    – หลวงพ่อฉลวย มนาโป (พระโรจนศักดิ์ เพชรทองทวีคูณ) วัดเมมสุวรรณาราม
    – หลวงพ่อชาญ สุมังคโล วัดถ้ำพระธรรมมาสน์
    – พระปลัดประพันธ์ หรือ พระอาจารย์ขวัญ ติกฺขปญฺโญ วัดทับยายเชียง
    3.3 พระพิธีธรรม 4 รูป
    3.4 พระเจริญพระพุทธมนต์ 10 รูป (เริ่มช่วง 14.30 น.)
    3.5 นิมนต์พระรัตนโมลี (ท่านเจ้าคุณไพรินทร์ ทนฺตจิตฺโต) วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร ดับเทียนชัย **กำหนดผู้มีเกียรติจำนวน 5 ท่าน ในการจุดเทียนจุดต่างๆในพิธี
    ** ทางโรงเรียนเตรียมปานะด้วย
    ** ระหว่างพิธีพุทธาภิเษกแขกผู้มีเกียรติและคณะครูร่วมพิธีที่วัดนางพญา (ชุดสีขาว)
โทรสอบถามเพิ่มเติม : 055244490

เหรียญพ่อจ่าการบุญ ปี 2542

วัตถุมงคลที่ระลึกในคราวที่สร้างอนุสาวรีย์พ่อจ่าการบุญ พ่อจ่านกร้อง ณ โรงเรียนจ่าการบุญ ของดีที่ชาวจ่าการบุญต้องมี

นับเป็นอีกสิ่งยึดเหนี่ยวหนึ่งของชาวจ่าการบุญที่ให้ความศรัทธานับถือมายาวนานนั่นก็คือพ่อจ่าการบุญ พ่อจ่านกร้อง ซึ่งจากประวัติดั่งเดิมคือเป็นชื่อของถนนจ่าการบุญทำให้มีการค้นคว้าประวัติของท่านทั้งสองทำให้มีทั้งคุณค่าทางประวัติศาสตร์และพลังศรัทธา หลายคนมีประสบการณ์เกี่ยวกับพ่อจ่าการบุญโดยถูกเล่าขานกันแบบปากต่อปาก ที่สำคัญไม่ใช่เพียงคณะครูและศิษย์จ่าการบุญเท่านั้น ยังมีเรื่องราวให้พอได้ยินของบุคคลภายนอกที่มากราบอธิษฐานขอพรในเรื่องของโชคลาภ การค้าขาย และโรคภัย ซึ่งก็สมหวังดั่งใจ

ในช่วงปี 2541 – 2542 ทางโรงเรียนจ่าการบุญนำโดยท่านผู้อำนวยการ คณะกรรมการ และคุณครูวัฒนศักษ์ สันโดษ ได้ร่วมกันสร้างอนุสาวรีย์เพื่อเป็นสัญลักษณ์ถึงพื้นที่แห่งนี้โดยช่างปั้นแบบคือคุณครูสุทีป สามเกษร ได้เดินทางไปหาข้อมูลจากอนุสาวรีย์ ห้องสมุด และงานวิจัยทางประวัติศาสตร์ แม้จะหาข้อมูลมากเพียงใดก็ตามความเป็นศิลปินของท่านทำให้ไม่สามารถสรุปรูปแบบที่ลงตัวได้ ท่านจึงได้จุดธุปกลางแจ้งบอกกล่าวพ่อจ่าทั้งสอง จะด้วยอภินิหาริย์หรือการตกตะกอนทางความคิดท่านก็สามารถปั้นแบบได้อย่างต่อเนื่องจนสำเร็จในเวลาไม่นาน

เมื่อมีการจัดสร้างหุ่นสำเร็จ ทางโรงเรียนได้จัดทำพิธีหล่อรูปหล่อลายองค์ ณ มณฑลพิธีของโรงเรียนโดยนิมนต์เกจิคณาจารย์ผู้คุณ ในครั้งการไปนิมนต์ในเกิดเรื่องราวเหลือเชื่อหลายประการ เช่น คณะทำงานเดินทางไปยังกุฏิของหลวงปู่อ่อน วัดเนินมะเกลือ สุดยอดเกจิของภาคเหนือในยุคนั้นซึ่งท่านไม่ได้รับกิจนิมนต์ไปยังที่ไหนมาร่วมกว่า 5 ปีด้วยเหตุของสังขาร เมื่อทางคณะนิมนต์เดินทางไปถึงบริเวณหน้ากุฏิของท่าน ทางผู้ดูแลได้เดินออกมาต้อนรับและพูดบอกว่า “หลวงปู่รู้แล้ว เดี๋ยวเจอกันวันงาน” ทั้งๆที่ยังไม่ได้คุยหรือแนะนำตัวว่ามาจากจ่าการบุญ ทางคณะจึงกลับมาแบบงงๆ และพูดคุยถึงเรื่องนี้่กันตลอดทาง

หลังจากนั้นได้ทราบภายหลังจากปากของหลวงปู่ว่า ท่านได้สื่อสารทางจิตกับทางหลวงปู่แขก วัดสนุทรประดิษฐ์ ซึ่งเป็นสหธรรมิกกัน นับเป็นบุญที่ได้รับความเมตตาจากเทพเจ้าเมืองสองแควถึงสองรูป นอกจากนี้ยังมี หลวงตาละมัย วัดอรัญญิก และพระอาจารย์ไพรินทร์ ร่วมปรกปลุกเสก 4 ทิศ สร้างความเข้าขลังจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผู้คนจึงศรัทธาในรูปหล่อของพ่อจ่าทั้งสอง

เมื่อรูปหล่อสำเร็จแล้ว คุณครูวัฒนศักดิ์ สันโดษ (คุณครูแม้ว) จึงได้ร่วมมือกับลูกศิษย์ของท่านจัดสร้างเหรียญที่ระลึกสร้างอนุสาวรีย์ซึ่งเป็นเหรียญรูปไข่ ความสูงประมาณ 3 ซม. ความกว้างประมาณ 2 ซม. โดยมีทั้งหมด 3 เนื้อคือ ทองแดงกะหลั่งทอง ทองแดงกะหลั่ยเงิน และทองแดงธรรมชาติ ซึ่งบรรจุไว้ในตลับพลาสติกทรงกลมสกรีน พ.ศ. 2542 ท่านได้นำวัตถุมงคลจ่าการบุญทั้หมดไปร่วมพิธีมหาจักดิ์พรรดิ์พุทธาภิเษก 2542 เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม พศ.2542 ซึ่งเกจิที่ร่วมพิธีจักรพรรดิมีทั้งสิ้น 142 รูป แบ่งกันเข้าปลุกเสกเป็นผลัด ทั้งหมด 4 ผลัด เวียนกันเข้านั่งปรกปลุกเสกณ วิหารหลวงพ่อพระพุทธชินราช อาจกล่าวได้ว่าได้ร่วมอยู่ในกลางมณฑลพิธีเลยทีเดียว พิธีนี้มีรายนามเกจิคณาจารย์ที่ปรากฎในหนังสือและเว็ปต่างๆ เช่น

  1. หลวงพ่อเกตุ วัดเกาะหลัก
  2. หลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย
  3. หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ
  4. พ่อท่านฉิ้น วัดเมือง
  5. หลวงพ่อหงส์ วัดเพชรบุรี
  6. ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี
  7. หลวงพ่อคล้อย วัดภูเขาทอง
  8. หลวงพ่อกลั่น วัดเขาอ้อ
  9. หลวงพ่อพรหม วัดบ้านสวน
  10. ครูบาผัด วัดศรีดอนมูล
  11. หลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง
  12. หลวงพ่อรวย วัดตะโก
  13. พ่อท่านทอง วัดสำเภาเชย
  14. หลวงพ่อตี๋ วัดหลวงราชาวาส
  15. หลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม
  16. หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ
  17. หลวงพ่อสมควร วัดถือน้ำ
  18. หลวงพ่อเก๋ วัดปากน้ำ
  19. หลวงพ่อลำไย วัดทุ่งลาดหญ้า
  20. หลวงพ่อพูนทรัพย์ วัดอ่างศิลา
  21. หลวงพ่อแย้ม วัดสามง่าม
  22. หลวงพ่อแย้ม วัดตะเคียน
  23. หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว
  24. หลวงพ่อแม้น วัดหน้าต่างนอก
  25. หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว
  26. หลวงพ่อสวัสดิ์ วัดศาลาปูน
  27. หลวงพ่อเกษม วัดม่วง(พระเกจิอาจารย์ผู้สร้างพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่จังหวัดอ่างทอง)
  28. หลวงพ่อวิชัย วัดถ้ำผาจม
  29. หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน
  30. หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม
  31. หลวงพ่อธงชัย วัดไตรมิตร
  32. หลวงพ่อรอด วัดสันติกาวาส
  33. หลวงพ่อถวิล วัดช้างให้
  34. หลวงปู่เหรียญ สำนักสงฆ์สวนจิตลดา เป็นต้น

นอกจากนี้คุณครูแม้วยังได้นำไปให้เกจิคณาจารย์ปลุกเสกเดี่ยวและเข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษกต่างๆหลายวาระ ท่านใดที่ไม่มีเหรียญ 100 ปี โรงเรียนชาย ก็สามารถห้อยเหรียญจ่าการบุญ 2542 ได้แม้นมวลสารอาจยังไม่เข้มขลังเท่าเหรียญ 100 ปี โรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม แต่ก็ได้บารมีจากเกจิคณาจารย์ส่งพลังให้เหมือนกัน

ไม่แปลกใจว่าทำไมครูและศิษย์เก่าที่มีเหรียญนี้จึงได้หวงแหนกัน

วรรณะของเหรียญที่ผิวเป็นธรรมชาติ

สำหรับเหรียญเนื้อทองแดงธรรมชาติ หากเก็นอยู่ในตลับเดิมไม่สัมผัสกับอากาศก็จะออกสีของทองแดง (บางเหรียญอาจมีรอยนิ้วมือของผู้นำเหรียญใส่ตลับปรากฎบ้างเล็กน้อย)

เหรียญเนื้อทองแดงธรรมชาติ
เหรียญจ่าการบุญเนื้อทองแดงซึ่งทางเจ้าของได้รับความเมตตาจากท่านพระครูประสาธน์ธรรมคุณ (ไสว ขนฺติพโล) ผู้สืบสานพุทธาคมหลวงปู่แขก เทพเจ้าแห่งเมืองสองแคว วัดสุนทรประดิษฐ์ อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก จารยันต์ “นะ คุ้มเมือง” ให้เพิ่มเติม

เรื่องเล่าสำหรับเหรียญองค์ในรูป ทางพระมหาเถระสัมผัสได้ถึงพลังออกมาจากเหรียญ เจ้าของเหรียญได้กล่าวขอความเมตตาให้ท่านลงอักขระเลขยันต์แต่ในตอนแรกท่านจะไม่จารให้โดยพูดเพียวว่า “พอแล้วๆ เขาเสกกันจนคุ้มตัวได้เต็มแล้ว” ทางเจ้าของได้กล่าวขอความเมตตาอยากให้เหรียญนี้ต่างจากเหรียญอื่นเพราะได้รับความเมตตาจากครูบาอาจารย์ของตน ท่านจึงยอมจารให้

จำนวนการตกทอดของเหรียญ

ในการจัดสร้างเหรียญ วัตถุประสงค์หลักเพื่อนำมาเป็นค่าใช้จ่ายทั้งหมดของการสร้างอนุสาวรีย์ จึงกล่าวได้ว่าผู้ร่วมบูชาถือเป็นผู้ร่วมสร้างอนุสาวรีย์ให้ผู้คนกราบไหว้บูชาสักการะด้วย หลังจากได้ครบตามจำนวนค่าใช้จ่ายแล้วได้นำแจกจ่ายให้กับคณะครูจ่าการบุญ คณะกรรมการ จบจนสิ้นคุณครูวัฒนศักดิ์ แต่ทางครูศุภเชษฐ์ (ผอ.เชษฐ์) และครูยงยุทธ (ครูต้น) ได้ทยอยมอบให้ครูที่ย้ายและบรรจุเข้ามาใหม่ตามวาระต่างๆจนเกือบหมดลง

ที่ทางผู้เขียนกล่าวว่าเกือบหมดลง เพราะทางครูต้นคิดว่าเหรียญได้หมดลงไปแล้ว จนกระทั้งวันเกิดเหตุอัคคีภัย วันที่ 22 ก.ย. 2565 ช่วงเวลาตีสามของวันถัดไปได้มีผู้คนพบเหรียญและพระนางพญาที่อยุ่ในโอ่งดินเล็กๆจำนวนหนึ่ง จึงได้รายงานไปยังผู้บริหารตามลำดับขั้น

โอ่งดินใบเล็กดังกล่าวไม่ได้ปิดฝา และอยู่บริเวณรูปหล่อลอยองค์ของพ่อจ่าการบุญ ขนาดประมาณ 20 นิ้ว (ใช้สรงน้ำและเข้าพิธีสำคัญต่างๆของโรงเรียน)

หลังจากกองพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบที่เกตุเหตุและกั้นพื้นที่ไว้จนกว่าคดีจะเสร็จ ยังไม่มีใครได้เข้าไปตรวจสอบสำรวจพื้นที่เพราะมีเส้นกั้นที่เกิดเหตุห้ามบุกรุก และยังมีความเสี่ยงที่อาคารที่เหลืออาจถล่มลงมา จนกระทั้งผลการพิสูจน์หลักฐานออกมาและสรุปสำนวนเรียบร้อยแล้ว ทางโรงเรียนจึงได้นิมนต์พระอาจารย์สุทศ วัดสระไม้แดง (ปัจจุบันคือ พระครูประภัศร์วรานุกิจ) ได้ทำพิธีสวดถอนตามความเชื่อ ระหว่างการสวดถอนได้เกิดปรากฎการณ์บางอย่าง (จะขอเขียนเล่าในหนังสือที่ระลึกสำหรับผู้บูชาพระกริ่งจ่าการบุญ) ทำให้ผู้ร่วมพิธีในวันนั้นถึงกับขนลุกเลยทีเดียว

ทำพิธีสวดถอนหอศิลป์จ่าการบุญ
พระอาจารย์สื่อจิตพิจารณา
สภาพเถ้า
เศษที่ยังคนหลงเหลือ

เมื่อทำพิธีเสร็จแล้วและได้นำศาลพระภูมิ ศาลเจ้าที่ที่ถูกเพลิงไหม้เสียหายนำไปจำเริญที่วัดแล้ว คณะครูที่มาร่วมพิธีต่างก็รู้สึกสลดเสียใจเพราะภายใต้เถ้าถ่านมีเศษของฆ้องวงที่ยังเหลือเพียงครึ่งใบ ตะกั่วที่ใช้ถ่วงระนาดหลอมเหลวจนไหลมากองรวมกันบนพื้น ดาบโบราณตั้งแต่ยุคต้นรัตนโกสินทร์และเครื่องดนตรีที่ทำจากไม้และโลหะไม่หลงเหลือให้เห็นเลย จะมีเพียงดาบไม้ที่ใช้แสดง เครื่องดนตรีที่อยู่ในกล่อง ที่ได้จัดเก็บภายในห้องเก็บชั้น 1 ที่ถูกเพลิงเผาไหม้น้อยที่สุดจึงหลุดรอดออกมาได้

แต่สิ่งที่สร้างความตื่นเต้นคือ การค้นพบเหรียญพ่อจ่าการบุญ ปี 2542 ประมาณ 2 กล่อง อยู่ตรงบริเวณจุดที่เป็นแท่นวางรูปหล่อลอยองค์พ่อจ่าและเศียรครู (พ่อแก่) ภายนอกพลาสติกถูกหลอมเหลวจนจับตัวเป็นก่อน แต่เหรียญบางเหรียญกลับมีความสมบูรณ์ บางเหรียญมีร่องรอยของพลาสติกติดอยู่ และหลายเหรียญพลาสติกหลอมติดกันจนจับตัวเป็นก้อน ทางครูได้ทดลองทำหลายวิถีทางที่แกะออกมาแต่ก็ไม่สามารถทำได้เป็นส่วนใหญ่ จะมีเพียงบางเหรียญที่แกะออกมาได้และมีร่องรอยเปลวไฟพยายามที่จะกลืนกินแต่ไม่สามารถทำอะไรได้ และยิ่งแปลกใจมากกว่านั้นคือตลอดเวลาตั้งแต่เจ้าหน้าดับเพลิงคุ้ยกองไฟ เจ้าหน้าที่ทหารมาคุ้ยและทำช่องระบายน้ำออก และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้มาเปิด งัด คุ้ย ทุกซอกมุมแต่กลับไม่มีใครพบกับเหรียญนี้ มีเพียงครูต้นที่ค้นพบเส้นเลือดพ่อจ่า (ก้านช่อชนวนตอนหล่อ) และพี่เพ็ญที่เป็นผู้ยกกองเหรียญออกมาและสามารถมองเห็นได้ชัดตั้งแต่ไกลว่าเป็นเหรียญ อาจกล่าวได้ว่าพ่อจ่าต้องการให้เก็บไว้สำหรับผู้ที่รักและศรัทธาในตัวพ่ออย่างแท้จริง

เหรียญที่พบ และตะกั่วของเครื่องดนตรีไทยที่ค้นพบ
เหรียญจ่าการบุญ 2542 ที่พบ
เหรียญไม่ไหม้ไฟ

เหรียญพ่อจ่าการบุญที่รอดจากเปลวไฟ

ปาฏิหาริย์เหรียญจ่าการบุญ
ปาฏิหาริย์เหรียญจ่าการบุญ
ปาฏิหาริย์เหรียญจ่าการบุญ
ปาฏิหาริย์เหรียญจ่าการบุญ

เหรียญพ่อจ่าการบุญ ปี พ.ศ. 2542 ที่รอดจากเปลวไฟหลายร้อยหลายพันองศาเซลเซียส (หน่วยดับเพลิงบอกว่าไฟไหม้หอศิลป์จากการประเมินคือไฟไหม้ระดับสูงสุด) เจ้าของเหรียญได้นำไปเหลี่ยมพลาสติกโดยยิงเลเซอร์ 20022022 ไว้ด้านล่างเพื่อบันทึกวันแห่งความเจ็บปวดของชาวจ่าการบุญ สีแดงที่ติดตรงด้านบนคือยางที่หลอมเหลว และสีส้มบนเหรียญเพราะถูกเปลวไฟเผาผลาญ ด้านหลังของเหรียญ (ด้านพ่อจ่า) มีพลาสติกหลอมติดอยู่เจ้าของเหรียญไม่ขูดออก

เหรียญจ่าการบุญ 2542
ด้านซ้ายสุดและตรงกลางคือเหรียญเนื้อทองแดง และเหรียญกะไหล่เงินที่ได้รับแจก ส่วนด้านขวาสุดคือเหรียญเนื้อกะไหล่เงินที่พบในกองเถ้าหอศิลป์

เหรียญทองแดงกะไหล่เงินที่พบในกองเถ้าหอศิลป์ พลาสติกภายนอกเสียรูปจนไม่เหลือเค้าโครงเดิม ส่วนยางสีแดงมีลักษณะเกือบหลอมเหลวทำให้รัดกับตัวเหรียญจนแน่นแต่ผิวของเหรียญกลับไม่เป็นอะไร

ตอนนี้หาไม่ได้แล้ว

มาถึงตรงนี้อาจมีหลายท่านต้องการอยากได้เหรียญนี้ เพราะคนจ่าการบุญบางส่วนอาจยังไม่มีไว้ในครอบครอง ในตอนแรกที่พยายามแกะออกมาเพราะต้องการแจกจ่ายให้กับคณะครูที่ยังไม่มีได้เก็บไว้ตามความประสงค์ของผู้สร้าง แต่ด้วยความสวยและความยากในการแกะพลาสติกทางโรงเรียนจึงได้จัดสินใจนำเหรียญที่พบทั้งเกือบ 200 เหรียญ นำไปหลอมรวมเป็นชนวนมวลสารในการสร้างวัตถุมงคลที่ระลึก 123 ปี จ่าการบุญทั้งหมด และได้มีการขอพลีและอธิษฐานให้ดวงจิตของคณาจารย์ได้สืบทอดมายังวัตถุมงคลรุ่น 123 ปี ในครั้งนี้ ถือเป็นหนึ่งในมวลสารที่มีดีนอกและดีใน หลายท่านได้ทำการจองบูชาจำนวนหลายชุดหลายองค์ทั้งๆที่ยังไม่เห็นของจริงนั่นเพราะได้ทราบข้อมูลของมวลสารนี้แล้ว ซึ่งวัตถุประสงค์ของทางคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ชมรมผู้ปกครอง ชมรมศิษย์เก่าจ่าการบุญ ต้องการนำเงินมาชำระเครื่องดนตรีที่ยังคงค้างและจัดหาเครื่องดนตรีใหม่ให้สมบูรณ์เพิ่มเติม ถือเป็นการสร้างปัญญาบารมีโดยแท้

เหรียญรุ่น 2542 ที่สามารถแกะออกมาได้
เหรียญที่ต้องส่งให้ทางโรงงานแกะและหลอมพร้อมกับชนวนมวลสารชิ้นใหญ่
ซ้ายสุด เส้นเลือดพ่อจ่า ในตะกร้าสีฟ้าคือเหรียญพ่อจ่าที่ค้นพบในกองเถ้าหอศิลป์ ก่อนส่งให้โรงงานแกะออกมาหลอมทำชนวนมวลสาร

สั่งจองวัตถุมงคลที่ระลึก 123 ปี จ่าการบุญ ได้ที่ ห้องธุรการอาคารรวมใจ โรงเรียนจ่าการบุญ ในวันและเวลาราชการ (กรุณาชำระการสั่งจองด้วยเงินสด)
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 055 244 490

VDO เหรียญพิธีจักรพรรดิ์ 2542 จ่าการบุญ

เหรียญแจก VIP งานวิ่ง 123 JB Run

เหรียญที่ระลึกแจกผู้สั่งจองบัตร VIP ที่แจกพร้อมคาถาบูชา